ปัญหาก็คือการขาดแคลนหลักสูตรระยะสั้น ที่จะบอกถึงวิธีการทาสีชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นผนังบ้าน,เฟอร์นิเจอร์, และอื่น ๆ อีกมากมาย เรามักจะพบปัญหาว่าหลังการทาสีเสร็จสิ้นลงแล้ว ชิ้นงานจะมีพื้นผิวไม่เรียบ มีเม็ดสี หรือมีผิวขรุขระคล้ายเปลือกส้มจนต้องทำซำ้ ๆ กันหลายต่อ หลายครั้งก็ยังไม่สมารถแก้ได้ เพราะมีข้อผิดพลาดในข้้นตอนก่อน และขณะทำการทาสี และนี่คือ 5 ข้อผิดพลาดที่สำคัญในงานสี
1 ขัดพื้นผิวงาน คุณอย่าไปหลงเชื่อเชียวนะว่าไม่ต้องขัดผิวงานก่อนทำการลงสี หรือแม้แต่ในโฆษณาของบริษัทผลิตสีที่ว่าไม่ต้องขัดผิวงานก่อน แต่ให้ลงสีทับไปได้เลย เพราะจริง ๆ แล้วการขัดพื้นผิวงานเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งยวด มันเป็นการกำจัดร่องรอยเดิมไม่ว่าจะเป็นซากสีเก่า หรือสารเคลือบผิวเก่าออกไปให้หมดเสียก่อน เพราะว่าซากเดิมมันมีอายุการไช้งาน พอมันหมดสภาพ หรือมีความชื้นซึมเข้าไป มันก็จะร่อนออกมาเป็นแผ่นเล็กแผ่นน้อย การลงสีทับลงไปเลยเท่ากับว่าไม่ได้ลงสีทับบนชิ้นงานโดยตรง แต่กลายเป็นว่าลงสีทับซากเก่า ๆ ของสีเดิมที่นนกำลังจะร่อน ซึ่งไม่ช้าไม่นานสีที่ลงทับใหม่ก็จะหลุดร่อนตามกันไปด้วยเช่นกัน
2 ทำควาสะอาดชิ้นงาน หลังจากการขัดด้วยกระดาษทรายในขั้นตอนแรกแล้ว พื้นผิวงานจะมีพวกขุย, ผง ที่เกิดจากซากสีเก่าตกค้างอยู่ ดังนั้นจงทำความสะอาดชิ้นงานด้วยผ้า อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเป็นผ้าอะไร เพียงแต่ให้คุณสังเกตุดูว่าผ้าที่คุณจะใช้ทำความสะอาดชิ้นงานนั้นไม่ควรมีขุยผ้าหลุดออกมาติดที่ชิ้นงานได้ง่าย ๆ เพราะถ้าเอาออกไม่หมดจะเห็นเป็นเส้นด้ายติดอยู่หลังคุณลงสี และปล่อยไว้จนแห้งแล้วจะดูว่าชิ้นงานไม่ปราณีตพอ ขอห้ามอย่างเด็ดขาดคือ อย่าใช้กระดาษชำระในการทำความสะอาดชิ้นงาน
3 ทารองพื้น บนพื้นเรียบเข้าถึงได้ง่ายลูกกลิ้งโฟมขนาดเล็กจะเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการลงสี ในขณะที่ส่วนที่เป็นซอกมุม หรือนุนโค้งแปรงทาสีขนาดเล็กน่าจะดีกว่า หลังจากลงรองพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์รองพื้นนั้น ๆ หลังจากรองพื้นแห้งแล้วให้ตรวจดูชิ้นงานอีกรอบ ถ้าปรากฎว่าบางส่วนบนชิ้นงานมีหยดรองพื้นแห้ง ๆ ติดอยู่ หรือมีรองพื้นหนากว่าส่วนอื่น ๆ มาก ก็ให้ขัดด้วยกระดาษทราย หรือทำความสะอาดด้วยผ้าเสียก่อน
4 ทำการลงสี ให้ใช้ลูกกลิ้งโฟมกับสีลาเท็กซ์กึ่งเงา (semi gross latex paint) ทาลงไปบาง ๆ สัก 3 รอบ ช่วงนี้จะใช้เวลานานหน่อย ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ในขั้นตอนนี้ขอให้ทำอย่างปราณีต และต้องใช้ความระมัดระวังอย่าให้เกิดเม็ดสี หรือสิ่งสกปรกฝังอยู่ในเนื้อสี แต่ถ้าพลาดและเห็นมันปรากฎอยู่ ก็ต้องขัดบริเวณนั้นด้วยกระดาษทราย และทำความสะอาดมันด้วยผ้าผืนใหม่ ขอยำ้ว่าต้องเป็นผ้าผืนใหม่ เพราะถ้าคุณใช้ผ้าผืนเก่าที่เคยใช้ในขั้นตอนที่ 2 ก็จะพบว่ามีเศษผง, ฝุ่น และซากสีเก่าติดอยู่ ที่จะทำให้ไปติดชิ้นงาน โดยเฉพาะส่วนที่สียังไม่แห้งทีนี้แหละงานเข้าเลย
5 ปกป้องชิ้นงาน ขั้นตอนนี้จะเป็นการลงสารเคลือบผิวพวก polyacrylic เพื่อปกป้องพื้นผิวงานอันเป็นขั้นตอนสุดท้าย ควรทำอย่างระมัดระวังโดยใช้ลูกกลิ้งโฟมกลิ้งไปอย่างเบามือเพื่อไล่ฟองอากาศที่อาจเกิดขึ้นระหว่างงานในช่วงนี้ เสร็จแล้วก็ปล่อยชิ้นงานทิ้งไว้สัก 3-4 วันจนแห้งสนิทแล้วจึงนำมาใช้งานได้
เพียง 5 ขั้นตอนที่ไม่ง่าย หรือยากจนเกินไป เพิ่มความอดทนไปอีกสักนิด เติมความละเอียดลงไปอีกสักหน่อย คุณก็จะได้ชิ้นงานที่ปราณีต สวยงาม เลอค่า เป็นอมตะ ระดับ masterpiece สมกับเป็น professional (พอจะจบก็อวยซ้าาาาา)
DIT = DO IT TODAY