ผมเคยมีบทความเรื่อง Honda NueV รถยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต ซึ่งเป็นรถยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ที่ใช้ขับขี่บนท้องถนนในเมือง ในขณะที่ฟากฝรั่งเองก็เริ่มมีแนวคิดเกี่ยวกับรถยนต์บินได้ ( flying car ) มานานหลายปี ในงานมอเตอร์โชว์ที่เจนีวา ทาง Airbus ได้นำเสนอ flying car รถยนต์บินได้ ต้นแบบรถยนต์โดยสาร ( taxi ) โดยนำผู้โดยสารขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อบรรเทาความแออัดของการจราจร โดยแนวคิดนี้ผู้ที่ต้องการใช้บริการจะดำเนินงานผ่าน แอปพลิเคชัน ( application ) บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เช่นโทรศัพท์ smart phone หลังจากที่ผู้ใช้บริการกรอกข้อมูลลงในแอปพลิเคชันแล้ว มันจะทำการคำนวนระยะทาง เวลาที่ใช้ในการเดินทาง และค่าบริการให้ทราบ จากนั้นผู้ใช้บริการสามารถทำการชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆได้บนแอปพลิเคชั่นนั้นได้ทันที
โดยทาง Airbus เองได้อ้างว่าจะมีการทดสอบ รถยนต์บินได้ในปลายปีนี้ ในการทดสอบครั้งแรกนี้จะเป็นการทดสอบแบบไร้คนขับ และในปี 2023 ได้วางแผนที่จะให้มีการบินนำร่องด้วยคนเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเปิดให้บริการอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ
flying car รถยนต์บินได้ ในแนวคิดของ Airbus จะให้มีส่วนประกอบสำคัญอยู่สามส่วนที่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด คือ
::: ส่วนที่นั่งของผู้โดยสาร ( capsule ) เป็นห้องโดยสารขนาดเล็กสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการ
::: ส่วนอุปกรณ์สำหรับการเดินทางภาคพื้นดิน ( ground module ) ในกรณีที่มีจุดหมายปลายทางที่สามารถเดินทางทางบกได้อย่างสะดวก และรวดเร็วกว่าส่วน capsule จะถูกนำไปติดตั้งอยู่บน ground module ซึ่งเป็นส่วนที่มีล้อ ให้สามารถเคลื่อนที่ทางบกได้เหมื่อนรถยนต์ธรรมดาทั่วไป
::: ส่วนอุปกรณ์สำหรับการเดินทางทางอากาศ ( air module ) ในกรณีที่จุดหมายปลายทางอยู่ห่างไกล หรือมีอุปสรรคหากเดินทางทางบก หรือต้องการความรวดเร็ว ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้การเดินทางทางอากาศแทน โดยตัว capsule จะถูกเชื่อมต่อกับโดรน ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ใบพัดจำนวน 4 ใบพัดที่มีกำลังมากพอที่จะสามารถยก capsule ที่มีผู้โดยสารจำนวน 4 ที่นั่งได้อย่างสบาย ซึ่งการบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 4 ที่นั่งนี้เอง อาจทำให้ค่าใช้จ่ายต่อคนถูกกว่าการใช้รถแท็กซี่ตามปกติเสียอีกด้วย
แน่นอนทีเดียวว่า Airbus ไม่ใช่เป็นเพียงบริษัทเดียวที่จะทำการวิจัยพัฒนาเกี่ยวกับ flying car รถยนต์บินได้นี้แต่เพียงผู้เดียว มีหลายบริษัททั้งในยุโรป และเอเชียต่างมุ่งมั่นพัฒนาในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และต่างทยอยเปิดตัวกันในปี 2020
แต่ละกลุ่มต่างมีการพัฒนาในแนวทางที่แตกต่างกัน บางกลุ่มก็พัฒนาให้ flying car รถยนต์บินได้ สามารถขึ้นลงได้ในแนวดิ่งอย่างเฮลิคอปเตอร์ แต่บางกลุ่มก็พัฒนาให้มันขึ้นลงในแนวราบแบบเครื่องบิน ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ run-way สำหรับการ landing เช่นเดียวกับเครื่องบิน
::: Flying car รถยนต์บินได้ Aero Mobil 3.0
::: Flying car รถยนต์บินได้ Pal V flying car
::: Flying car รถยนต์บินได้ Maveric flying car
::: Flying car รถยนต์บินได้ Transition R Is
::: Flying car รถยนต์บินได้ Terrafgia TF-X
นอกจากนี้ทาง Hax ร่วมกับ Airbus มีความต้องการที่จะสนับสนุนกลุ่ม Startup หน้าใหม่ที่ต้องการพัฒนา และสร้างบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ flying car รถยนต์บินได้ โดยกลุ่มที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับเงินทุนประเดิมจากผู้สนับสนุน จำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสาขาต่าง ๆที่จะได้รับการสนับสนุนดังนี้
• Airport runway and landing detection systems
• Emergency safety technology for airborne vehicles
• Aerial maneuver decision making and support systems
• Air traffic management systems
• Battery packaging and management systems for airborne vehicles
• Urban air transport vehicle technology
• Aerial sense and avoid technology
• Aerial collision detection and avoidance systems
• Autonomous airborne vehicle technology
• Infrastructure for airborne transport vehicles
เพราะว่าการเคลื่อนที่ของ flying car รถยนต์บินได้นี้ เป็นการเคลื่อนที่ในสามแกนคือ
::: เคลื่อนที่ขึ้น–ลง ตามแนวดิ่งได้
::: เคลื่อนที่ไปตามแนวกว้างได้
::: เคลื่อนที่ไปตามแนวยาวได้
ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ธรรมดา ที่เคลื่อนที่อยู่สองแกนคือ แนวกว้าง กับแนวยาว ทำให้เกิดความวิตกกังวลในด้านความปลอดภัย ความมั่นคง กฎหมาย ใบอนุญาต และอื่น ๆ โดยเฉพาะหากมีการใช้งานโดยปราศจากคนขับขี่ แต่เปลี่ยนไปใช้โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์แทน เป็นเหตูให้ในหลายประเทศ เป็นห่วงเรื่องความมั่นคง และเรื่องการก่อการร้ายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แต่อย่างว่าแหละเนอะ อะไร ๆมันก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน อีกหน่อยหากจะไปไหนมาไหน เราอาจแค่เดินไปหยิบก้อนหินสักก้อนที่หน้าบ้าน มากำไว้ที่มือขวา เสร็จแล้วก็พุ่งทะยานไปบนฟากฟ้า ตามหาจุดหมายปลายทางได้ดั่งใจเลยยยย ขออย่างเดียวอย่าทำก้อนหินหลุดมือก็พอ มิฉะนั้นคนที่อยู่ข้างล่างเขาจะเดือดร้อนนะจ๊ะ นะจ๊ะ
ขอจบบทความนี้ก่อนละกัน สำหรับวันนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์เช่นเคย