เพราะเหตุที่ว่า ผมได้ทำเว็บไซต์ที่สื่อสารกับผู้เยี่ยมชมเป็นภาษาอังกฤษอยู่หลายเว็บ ในบางทีก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่า ควรจะใช้คำขึ้นต้น (คำทักทาย) และคำลงท้าย อย่างไรดีเพื่อตอบจดหมายอีเล็คโทรนิค ที่เราเรียกว่า emailเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนบนเว็บ เช่นเดียวกันบนเว็บไซต์ส่วนใหญ่มักจะมีหน้าเว็บที่ใช้บอกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผู้เขียน คือ หน้าเกี่ยวกับฉัน (เรา) หรือในภาษาอังกฤษก็เป็นหน้า about me, about us, หรือ about the authors ก็จะต้องมีคำขึ้นต้น (คำทักทาย) และคำลงท้าย ที่เหมาะสมกับอัตลักษณ์ของเว็บไซต์ และบุคลิกภาพของผู้เยี่ยมชมที่เราคาดเดาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
คำขึ้นต้น (คำทักทาย) และคำลงท้าย ที่ใช้ในจดหมายภาษาอังกฤษ หรือสื่อต่าง ๆนั้น เราต้องให้ความสำคัญ และระมัดระวังในการที่จะเลือกใช้คำ หรือวลีให้ถูกกาลเทศะ ซึ่งพวกฝรั่งเองก็คงมีธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาด้วยเช่นกัน มาดูกันว่าคำ หรือวลีแบบไหนจะเหมาะสมกับใครกันบ้าง
ปกติคำขึ้นต้นที่ใช้สำหรับทักทาย และคำลงท้ายที่ใช้เพื่อจบการสนทนาในจดหมายภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นใดก็แล้วแต่ สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ ต้องพิจารณาให้แน่ชัดว่า เรากำลังจะส่งข้อความนั้นไปถึงใคร เพื่อที่จะเลือกคำขึ้นต้น (ทักทาย) และคำลงท้ายที่เหมาะสมได้ ซึ่งสามารถแบ่งลักษณะของจดหมายได้เป็น 3 ประเภทคือ
::: แบบเป็นทางการ ( Formal )
ใช้ในกรณีที่เป็นจดหมายธุรกิจ หนังสือราชการ ข้อความถึงบุคคลสำคัญ สุนทรพจน์ เอกสารวิชาการ จดหมายสมัครงาน เช่น อีเมลจากธนาคารถึงลูกค้า หนังสือเวียนเพื่อทราบภายในกระทรวง หนังสือเรียนเพื่อพิจารณาถึงนายกรัฐมนตรี บันทึกการประชุมบริษัทถึงหุ้นส่วนจดทะเบียน เป็นต้น
::: แบบกึ่งทางการ ( Semi- Formal )
ในกรณีที่ผู้ส่งจดหมายมีความสนิท หรือรู้จักกับผู้รับเป็นอย่างดี ในทางธุรกิจอาจใช้คำขึ้นต้น และคำลงท้ายเป็นแบบกึ่งทางการก็ได้เช่น บันทึกข้อความจากพนักงานบัญชีถึงผู้จัดการแผนกที่เป็นเพื่อนกัน หรือกรณีที่ผู้มีตำแหน่งสูงกว่ามีบันทึกสั่งงานมาถึงผู้ใต้บังคับบัญชา ก็สามารถทำหนังสือในลักษณะนี้ได้เช่นกันเช่น บันทึกการสั่งงานจากกรรมการผู้จัดการถึงผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเป็นต้น
เป็นเรื่องที่อ่อนไหวเอามาก ๆ สำหรับผู้คิดจะทำหนังสือ หรือจดหมายแบบกึ่งทางการควรใคร่ครวญให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะเมื่อผู้ส่งมีฐานะหน้าที่การงานที่ต่ำกว่าผู้รับ การทำเป็นแบบทางการจะปลอดภัย และดูดีกว่า เพราะแม้ว่าเราจะสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับผู้รับ แต่บางทีจดหมายนั้นจำเป็นต้องถูกเวียนไปให้บุคคลอื่น ๆที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบ หรือมีการสั่งงานจากผู้รับบนจดหมายนั้นถึงบุคคลอื่น ๆ จะได้ไม่น่าเกลียด
::: แบบไม่เป็นทางการ ( Informal )
ถ้าเราต้องการเขียนถึงเพื่อน คนรัก คนในครอบครัว แน่นอนว่าจดหมาย หรืออีเมล ที่มีคำทักทาย ละลงท้ายแบบไม่เป็นทางการนั้น จะเป็นทางเลือกที่ดูอบอุ่น คุ้นเคย เป็นกันเอง และจริงใจมากกว่า
คำขึ้นต้น หรือคำทักทายแบบเป็นทางการ
คำขึ้นต้นที่ใช้สำหรับการทักทายแบบเป็นทางการนั้น ควรเป็นคำที่แสดงความยอมรับนับถือ ที่ถูกเจือไปด้วยความอบอุ่น มีความเป็นมิตร และสุภาพเรียบร้อย โดยทั่วไปมักจะใช้คำว่า Dear และตามด้วย
::: คำนำหน้าชื่อ นาย นาง นางสาว พลเอก ดอกเตอร์
::: ชื่อสกุล
::; เครื่องหมาย colon :
เช่น Dear Dr. Amante:
หมายถึง Dear Dr. Wonka Amante
หรือ
::: ตามด้วยชื่อ และนามสกุล โดยสามารถละคำนำหน้าชื่อได้
เช่น Dear Wonka Amante:
หรือ
::: ตามด้วยคำนำหน้าชื่อ
::: ตามด้วยตำแหน่ง
เช่น Dear Mr. President:
คำทักทายในภาษาอังกฤษในรูปแบบเป็นทางการ นอกจากคำว่า Dearแล้ว อาจใช้คำว่า Attn. แทนก็ได้ ในภาษาไทยหมายถึง เรียนคุณ …..
ปกติจดหมาย หรืออีเมลแบบเป็นทางการนั้นมักจะระบุชื่อ และนามสกุล แต่ในกรณีที่เราไม่ทราบชื่อที่แท้จริงก็อาจใช้เป็น
Dear Sir: สำหรับสุภาพบุรุษ
Dear Madam: สำหรับสุภาพสตรี
และถ้าหากไม่สามารถระบุได้อย่างเฉพาะเจาะจงในทุก ๆด้านทั้งชื่อ นามสกุล เพศ ตำแหน่ง ก็อาจใช้
To whom it may concern: ก็ได้
คำขึ้นต้น หรือคำทักทายแบบกึ่งทางการ
คำทักทายขึ้นต้นใช้แบบเป็นทางการได้เลย เพียงแต่จะตามด้วยชื่อแรกของผู้รับ และตามด้วยเครื่องหมาย colon : เช่น
Dear Wonka:
คำขึ้นต้น หรือคำทักทายแบบไม่เป็นทางการ
จดหมาย หรืออีเมลแบบไม่เป็นทางการจะถูกใช้อยู่ในแวดวงเพื่อนฝูง หรือสมาชิกในครอบครัว คำขึ้นต้น หรือคำทักทายมักจะเปลี่ยนไปเป็นสำเนียงแบบภาษาพูด โดยใช้ Hi หรือ Hello แล้วตามด้วยชื่อแรก และปิดลงด้วยเครื่องหมายจุลภาค comma , เช่น
Hi Wonka,หรือ Hello Wonka,
คำลงท้ายที่ใช้ในจดหมายภาษาอังกฤษ
คำลงท้ายที่เรามักคุ้น ๆกันอยู่มีมากมาย เช่น Best, Regards, Yours, Sincerely, Yours, Yours truly, Best wishes, Loves, Hugs, Your friends, kisses เป็นต้น เราสามารถเลือกคำลงท้ายเอามาใช้ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งพอจะสรุปได้ตามนี้
::: Best, All the best, All best, Best regards, Best wishes
คำลงท้ายที่เกี่ยวพันกับคำว่า Best ได้รับการยอมรับว่าเป็นคำที่สุภาพ ที่สามารถใช้ได้กับจดหมายถึงเพื่อน กระทั่งถึงจดหมายธุรกิจ ซึ่งมีความหมายในทำนองที่ว่า ผู้ส่งมีความหวังว่าผู้ที่ได้รับจดหมายนี้จะพบเจอแต่ประสบการณ์ที่ดี และมีสิ่งดี ๆเข้ามาในชีวิตตลอดไป เป็นคำที่หวาน และผู้เชี่ยวชาญทางภาษาลงความเห็นว่าเป็นคำลงท้ายที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย และมีเสน่ห์ โดยคำว่า Best, All best, All the best, Best wishes จะเป็นคำลงท้ายแบบกึ่งเป็นทางการในขณะที่ Best regards, จะเป็นคำลงท้ายแบบเป็นทางการมากกว่า นอกจากนี้อาจใช้ Regards, เฉย ๆก็ได้จะเป็นแบบกึ่งเป็นทางการ แต่ถ้าหากเติมเป็น Warm regards, ก็จะสร้างความอบอุ่นให้กับความรู้สึกของผู้รับได้อีกมากโขเลย
::: Sincerely, Sincerely yours,
Sincerely yours,เป็นคำลงท้ายจดหมายแบบเป็นทางการที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ส่งที่ยังไม่คุ้นเคยกับผู้รับเป็นอย่างดี ส่วน Sincerely, จะนิยมใช้แบบกึ่งเป็นทางการ
::: Yours, Yours truly,
เป็นคำที่ก้ำกึ่งระหว่างแบบเป็นทางการ และแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งขึ้นกับเนื้อหาในจดหมาย และผู้ที่ได้รับจดหมายว่าเขาเป็นใคร หากผู้รับเป็นเพื่อนสนิท และเนื้อหาในจดหมายออกแนวขำ ๆก็อาจใช้เป็นคำลงท้ายแบบไม่เป็นทางการได้ แต่โดยปกติแล้ว Yours truly, จะใช้เป็นคำลงท้ายแบบเป็นทางการ และ Yours, จะเป็นแบบกึ่งเป็นทางการ นิยมใช้กับจดหมายที่มีเนื้อหาที่ผู้ส่งต้องการเน้นข้อความในจดหมายเพื่อแสดงความจริงใจ ที่จะอุทิศตนเพื่อทำอะไรบางอย่างให้แก่ผู้รับจดหมาย
::: Thanks, Thank you, Thank so much
คำลงท้ายเพื่อแสดงความขอบคุณในจดหมาย ควรถูกเลือกใช้ให้เหมาะสม ผู้ส่งบางคนมักจะคุ้นเคยกับการจบข้อความในจดหมายทุกฉบับด้วยคำว่า Thanks, จนเคยชิน ทั้งที่บางครั้งข้อความในจดหมายไม่ได้มีเนื้อหาที่ต้องไปขอบคุณผู้รับเลย มันอาจสร้างความสับสนให้กับผู้รับได้ว่า มาขอบคุณเขาเพื่อ? หรือบางทีเป็นจดหมายเพื่อสั่งงาน ที่ไม่จำเป็นต้องไปขอบคุณผู้รับเสียก่อนที่เขาจะได้เริ่มต้นทำงาน การขอบคุณควรทำเป็นจดหมายมาในภายหลัง เมื่องานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว
::: Speak to you soon, Look forward to speaking with you soon, See you soon, Talk to you later,
เป็นการจบการสนทนาทางอีเมล หรือจดหมายที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการพูดคุยกันอีก ตามมาในภายหลัง ซึ่งมักจะเป็นการพูดคุยกันแบบเผชิญหน้า ที่จะนำมาถึงซึ่งข้อสรุป ข้อตกลงที่สำคัญ ๆ และทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งโดยปกติแล้ว วลีข้างต้นจะถูกใช้เป็นคำลงท้ายในแบบเป็นทางการ
::: ไม่มีคำลงท้าย
การไม่มีคำลงท้ายในอีเมล หรือจดหมายอื่น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องผิดปกติ แต่บางกรณีก็อาจอนุโลม หรือยอมรับได้ เช่นในกรณีที่มีการถาม–ตอบบนอีเมล ซ้ำไป ซ้ำมาหลาย ๆครั้งในวันนั้น คุณอาจมีคำลงท้ายอีเมลเพียงฉบับแรก และในฉบับต่อ ๆมาอาจละคำลงท้าย และชื่อของคุณไว้ก็ได้ แต่พึงระมัดระวังกับผู้รับที่เราไม่คุ้นเคยกันดีพอ
::: Take care,
เป็นคำลงท้ายจดหมายที่มีความหมายใกล้เคียงกับ คำในกลุ่ม Bestคือขออย่าให้มีอุปสรรคเกิดขึ้นกับคุณเลย เป็นคำลงท้ายที่เป็นแบบกึ่งเป็นทางการ ที่อย่างน้อยผู้ส่งก็ควรจะคุ้นเคยกับผู้รับในระดับหนึ่ง
::: Cheers,
คงเคยได้ยินกันในวงเหล้า ถ้าถูกนำมาใช้ในจดหมาย ก็ให้ความหมายทีดีต่อความรู้สึกไม่น้อยทีเดียว Cheers, เป็นคำเบา ๆฟังสบาย ๆมองโลกในแง่บวก เหมือนกับเรากำลังส่งความปรารถนาดีให้กับผู้ที่รับจดหมาย เป็นคำหนึ่งที่ควรเก็บไว้ใช้ในกรณีที่คุณคุ้นเคยกับผู้รับ หรือผู้อ่านระดับหนึ่ง ผมเป็นคนหนึ่งที่เลือกใช้คำนี้ในเว็บไซต์ภาษาอังกฤษของผมเอง
::: XOXO
เป็นสัญลักษณ์ ที่หมายถึง Hugs and Kisses
X เป็นสัญลักษณ์ของ การกอด
O เป็นสัญลักษณ์ของ การจุมภิต
คำลงท้ายแบบนี้ เหมาะใช้กับสาว ๆเท่านั้น ห้ามนำไปใช้กับเจ้านายเป็นเด็ดขาด
::: Yours friend,
แม้ว่าเป็นคำง่าย ๆ ทื่อ ๆแต่นี่ก็เป็นอีกคำหนึ่งที่ผมเลือกใช้ในเว็บไซต์ที่เผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษของผม คำนี้ฟังดูอบอุ่น จริงใจ และตอกย้ำ เหมือนกับจะเตือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผม….Yours friend
::: Warmly,
คำนี้ก็น่านำไปใช้ ฟังแล้วรู้สึกดี เหมือนมีสัมผัส อบอุ่น จริงใจ
::: Onward,
คล้ายจะบอกว่าให้ มุ่งไปข้างหน้า ก้าวต่อไป เป็นคำที่ทรงพลัง เข้มแข็ง ให้กำลังใจ น่าใช้เป็นอย่างยิ่ง
ก่อนจบบทความนี้มีเกร็ดเล็ก ๆฝากไว้อีกนิดหน่อยคือ คำลงท้ายจดหมาย ควรขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่ และหลังคำ หรือวลีนั้นให้ใส่เครื่องหมายจุลภาค , ไว้ด้วยทุกครั้ง อย่าลืมเซ็นชื่อ หรือพิมพ์ชื่อ ถ้ามี Logo หรือ Profile Picture ก็ใส่ด้วยผู้รับจะได้รู้สึกว่า นี่แหละเป็นอีเมล ของเขาจริง ๆ
คำขึ้นต้น หรือคำทักทาย และคำลงท้าย ที่ใช้ในจดหมายภาษาอังกฤษ ถ้าเลือกได้อย่างเหมาะสม และถูกกาลเทศะแล้ว จะเป็นผลดีกับตัวคุณ และกิจการงานต่าง ๆได้เป็นอย่างดี สำหรับคืนนี้ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับผม
Your friend,
Warmly,
Onward,
One thought on “คำขึ้นต้นเพื่อทักทาย และคำลงท้ายปิดข้อความ ในจดหมายภาษาอังกฤษ”