ท่ามกลางความผันผวนอย่างรุนแรงของ Bitcoin ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่คิดค้น Bitcoin Satoshi Nakamoto เจ้าของผลงานเขียนอันลือลั่น whitepaper 2008  (Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System เกี่ยวกับ cryptocurrency ในปี 2008 ยังเป็นคนที่แสดงอัตลักษณ์ อันเป็นปริศนา และลึกลับ เป็นเงามืดมหึมาที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin และอาจเป็นที่น่าเชื่อได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และถ้ากระแส Bitcoin เป็นพายุที่โหมกระหน่ำโลกทางการเงิน คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ใครเป็นผู้ที่สร้างมันขึ้นมาก็คือ ‘ว่างเปล่า และไร้ร่องรอย’

การพลิกแผ่นดินล่า Satoshi Nakamoto ของสื่อทั่วโลก ยังไม่มีสื่อใดที่จะสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ใครกันหนอที่เป็นคนระบายสีสรรอันฉูดฉาดให้กับการเงินของโลกใบนี้ สื่อสำนักต่าง ๆได้อ้างว่าพบตัว Satoshi Nakamoto แล้ว แต่ก็ไม่อาจแสดงที่มาที่ไปได้เลยว่า บุคคลที่ถูกกล่าวอ้างนั้น คือผู้ที่เขียน whitepaper 2008 ฉบับนั้นจริง ๆ

Satoshi Nakamoto เป็นชาวญี่ปุ่น?

ใน whitepaper ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในเครือข่าย P2P Foundation กล่าวว่า Satoshi Nakamoto เป็นชาวญี่ปุ่น เกิดในญี่ปุ่น มีการคาดการณ์ภายในชุมชนผู้สนใจ Bitcoin ว่าเขาเกิดเมื่อ 5 เมษายน 2518 มีส่วนร่วมอยู่ในชุมชน Bitcoin มาตั้งแต่เริ่มแรก ปรับเปลี่ยน Bitcoin พื้นฐาน หลังจากนั้นอีกสองปี เขาได้เปลี่ยนมือให้ Gavin Andresen เข้ามากุมบังเหียนแทน ครั้งสุดท้ายที่โลกได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของ Satoshi Nakamoto คือข้อความที่ระบุทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “เขาได้ย้ายไปอยู่กับสิ่งอื่น ๆ และให้ Bitcoin ตกอยู่ในมืออันงดงามของ Gavin Andresen”  จากทั้งหมดนี้ก็ไม่อาจสร้างความชัดเจนได้เลยว่า บุคคลลึกลับผู้สร้าง Bitcoin นี้คือใคร ไม่รู้แม้แต่ว่าเขาเป็น หญิง หรือชาย เป็นกลุ่มบุคคล หรือเป็นเพียงคน ๆเดียว

Satoshi Nakamoto เป็นชาวอังกฤษ?

เนื่องจากเกิดความคลุมเครือในการระบุอัตลักษณ์เบื้องต้น ที่เป็นเพียงพื้นฐานง่าย ๆก็ยังไม่อาจสามารถแสดงความชัดเจนออกมาได้ การสืบค้นเกี่ยวกับ Satoshi Nakamoto หลักฐานที่จะพิสูจน์ได้จึงมีเพียง whitepaper 2008 และการโพสต์ข้อความต่าง ๆที่มีการระบุเวลาเอาไว้อย่างชัดเจน ได้มีการวิเคราะห์การใช้ภาษาในการเขียน whitepaper 2008 และการโพสต์ข้อความต่าง ๆ ของเขาแล้วพบว่า มีการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงเกิดข้อกังขาในการมีต้นกำเนิดเป็นคนญี่ปุ่น การใช้ภาษาที่ดีได้ขนาดนี้เขาน่าจะเป็นคนอังกฤษโดยกำเนิด Stefan Tomas ชาวสวิส และผู้มีส่วนร่วมในชุมชน Bitcoin ได้เก็บรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการโพสต์ของ Satoshi Nakamoto ไว้ได้ถึง 500 โพสต์ที่ระบุเวลาได้อย่างแน่นอน ค้นพบว่าเขาจะไม่มีการโพสต์ในช่วงเวลาระหว่าง เที่ยงคืน ถึง หกโมงเช้าตามเวลามาตรฐานกรีนิช จึงทำให้มีการคาดเดาไปต่าง ๆนานาว่าสถานที่ที่มีศักยภาพเพียงพอ ที่จะสามารถระบุแหล่งที่อยู่ของ Satoshi Nakamoto ว่าคือที่ไหนกันแน่

หรือว่าเขาเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น Dorian Prentice Satoshi Nakamoto

ปี  2014 มีการระบุว่า Satoshi Nakamoto เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่อาศัยอยู่ใน แถบ Temple City แคลิฟอร์เนีย นี่อาจเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่า คนที่ชื่อ “Satoshi Nakamoto”  มีตัวตนอยู่จริง ๆ นิตยสาร Newsweek ฉบับเดือน มีนาคม 2014 ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ Dorian Prentice Satoshi Nakamoto ที่มีสถานะเป็นนักฟิสิกส์ของ Cal Poly University ซึ่งเขาตอบคำถามที่สร้างความฮือฮาเกี่ยวกับ Bitcoin เอาไว้ว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับมันได้ มันถูกเปลี่ยนไปอยู่ในความดูแลของคนอื่น ๆ ซึ่งพวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบต่อมัน ในขณะนี้ข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ อีกต่อไป” จากคำตอบนี้นี่เอง เขาจึงถูกรุมล้อมด้วยกองทัพนักข่าวด้วยเข้าใจว่า คนนี้นี่แหละคือ ผู้ที่สร้างสรรค์ Bitcoin ตัวจริง ต่อมา Dorian Prentice Satoshi Nakamoto ได้ปฏิเสธอย่างแข็งขันที่ว่า เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังcryptocurrency อย่าง Bitcoin นั้นไม่เป็นความจริงเลย โดยกล่าวว่าเขาไม่เคยรู้จัก หรือได้ยินอะไรเกี่ยวกับ Bitcoin เลย และการตอบคำถามในครั้งก่อนหน้านี้ เพราะเขาเข้าใจผิดต่อคำถามของนักข่าว เพราะคิดว่า มันเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับงานทั้งหมดที่เขาทำก่อนหน้านี้คือ การเป็นผู้รับเหมางานในค่ายทหาร

Hal Finney ผู้รับทำธุรกรรมแลกเปลี่ยน Bitcoin หรือว่าเขาเป็นเจ้าของรหัสลับ Bitcoin

มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีวิศวกรคอมพิวเตอร์ Hal Finney ผู้ที่รับทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเหรียญดิจืตอลอย่าง Bitcoin เป็นคนแรก ๆ ก็อาศัยอยู่ในย่านนี้ ถัดออกไปจาก Dorian Prentice Satoshi Nakamoto เพียงไม่กี่ช่วงตึก คอลัมนิสต์จากนิตยสารทางการเงินชื่อดัง Forbes … Andy Greenberg ได้ใช้ความพยายามที่จะเข้าสัมภาษณ์ Finney ที่บ้านของเขา ในขณะที่เขาป่วยด้วยโรค  Amyotrophic Lateral Sclerosis ALS ที่สร้างปัญหาต่อการพูด หรือขยับกล้ามเนื้อ โดย Greenberg เชื่อว่า Finney คือมือปืนรับจ้างเพื่อเขียนบทความให้กับ ผู้สร้าง Bitcoin โดยใช้ชื่อของเพื่อนบ้านของเขาเป็นนามแฝง ทั้งนี้ได้มีการเชื่อมโยงไปถึงความสัมพันธ์คุ้นเคย ระหว่าง Finney กับนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังผู้เขียนบทความ “bit gold” ที่ชื่อว่า Nick  Szabo เชื่อกันว่า Finney เป็นบุคคลที่มีศักยภาพมากที่จะได้ชื่อว่าเป็น Satoshi Nakamoto ตัวจริง เขาเป็นผู้บุกเบิกการเข้ารหัสลับ Bitcoin ที่น่าจะหมายรวมไปถึงการขุดเหมือง Bitcoin ด้วย และเป็นบุคคลแรกที่ได้รับ Bitcoin จำนวน 10 เหรียญ ที่อ้างว่า Satoshi Nakamoto เป็นผู้ส่งให้เพื่อเป็นการทดสอบการเปลี่ยนผ่านของระบบ Hal Finney ได้เสียชีวิตลงเมื่อ 28 สิงหาคม 2014

Nick Szabo ปูชนียบุคคลของ cryptocurrency  หรือว่าคือเขา?

Nick Szabo เป็นที่คาดเดาไว้สูงว่าเป็นผู้สร้าง Bitcoin ผู้ลึกลับ เขาเป็นผู้เขียนบทความ bit gold มีการวิจัยวลีหลายสิบวลีในบทความของเขา พบว่ามีความเชื่อมโยงของสไตล์การเขียนของเขา กับ white paper 2008 ของ Satoshi Nakamoto อีกทั้ง Nick Szabo ได้ให้คำยืนยันดังนี้ว่า มีเพียงตัวเขา Finney และ Wei Dai ที่เป็นผู้สร้าง สารบัญบิทคอย บี มันนี ( Bitcoin precursor B-Money ) เท่านั้นที่จะสามารถรับผิดชอบต่อสกุลเงินดิจิตอล มีการตั้งข้อสังเกตจากนักการเงินว่า Szabo นี่แหละเป็นผู้ที่เขียน whitepaper 2008  โดยเรียกร้องให้เขาปรากฏตัวทางทีวี เพื่อถือสิทธิ์อันชอบธรรมใน whitepaper 2008 ฉบับนั้น แต่ก็ได้รับการปฏิเสธผ่าน email ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เป็นการเข้าใจผิดที่คิดว่าเขาคือ Satoshi Nakamoto

Craig Wright ผู้ประกาศตนว่าเป็นผู้สร้าง Bitcoin

Craig Wright นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ชาวออสเตรเลีย ได้อ้างจากโพสต์บนทวิตเตอร์ของเขาเองเลยว่า เขานี่แหละ คือ Satoshi Nakamoto ตัวจริงโดยเขาพยายามพิสูจน์ทางเทคนิคต่อ สำนักข่าว BBC นิตยสาร The Economist และ GQ ด้วยการสาธิตกระบวนการตรวจสอบที่ใช้ในการทำธุรกรรม Bitcoin แต่ปฏิเสธที่จะแสดงหลักฐานการเข้ารหัสลับต่อสาธารณะ ต่อมามีการโพสต์บนเครือข่ายว่า เขาไม่มีความกล้าหาญพอที่จะพิสูจน์ตัวตนของเขาอีกต่อไป

จนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า Satoshi Nakamoto คือใคร? ชื่อก็เป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ แต่ผู้คนที่ถูกคาดหวังว่าน่าจะใช่ กลับอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น แถมบางคนก็เป็นฝรั่งหัวแดงอีกต่างหาก ถ้าหากไปค้นหาที่ประเทศญี่ปุ่น ผมคิดว่าน่าจะเจอ Satoshi Nakamoto เป็นร้อย เป็นพัน คนก็ได้

ทำไมการระบุตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto จึงมีความสำคัญอย่างมาก

Bitcoin เป็นทรัพย์สินดิจิตอล ที่ถูกจำกัดปริมาณเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เชื่อกันว่าถ้าหาก Satoshi Nakamoto เป็นผู้ถือครอง Bitcoin เป็นจำนวนแค่เพียง 5% ของปริมาณเหรียญที่มีทั้งหมดในโลก เขาก็จะเป็นผู้ที่ร่ำรวยเป็นอันดับที่ 52 ของโลก ถ้าเทียบมูลค่าตอนต้นปี 2018 จะมีมูลค่าถึง 16000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้ามีมากกว่านั้นล่ะ เขาอาจได้ชื่อว่าเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เนื่องจากเราสามารถรับรู้ถึงการครอบครอง Bitcoin ในบัญชีต่าง ๆซึ่งเป็นที่เปิดเผยอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่สามารถทราบได้ว่าเจ้าของบัญชีคือใคร พบว่าบางบัญชี หรือ address มีการครอบครอง Bitcoin เอาไว้ถึง 1000000 Bitcoin ซึ่งมีมูลค่ามากมายมหาศาล

การถือครองเหรียญ Bitcoin เป็นจำนวนมากของบุคคลเพียงคนเดียว อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดเงินได้อย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้สนใจ Bitcoin โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวกับการเพิ่มของปริมาณการทำธุรกรรมภายในเครือข่ายของ Bitcoin ซึ่งมีความเห็นหลากหลาย และมีบางส่วนที่ขัดแย้งกัน โดยเฉพาะในเรื่องการเพิ่มขนาดบล็อก เพื่อให้ระบบสามารถประมวลผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการที่สามารถระบุตัวผู้สร้าง Bitcoin ตัวจริงให้ได้นั้น จะสร้างความมั่นใจ และทำให้ขั้นตอนต่อไปของ Bitcoin ได้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

การเปลี่ยนผ่านของ Bitcoin ยังคงดำเนินไปยาวนานนับทศวรรษ ในขณะที่ปริศนาลึกลับที่ว่า Satoshi Nakamoto คือใคร? ก็ยังถูกก่นถามอยู่อย่างไม่รู้จบ คำตอบก็ดูลางเลือน และที่สำคัญมีการหลอกลวงกันจนเป็นที่มาของแชร์ลูกโซ่ ที่ตามหลอกหลอนคนทั้งโลก หากใครมาชักชวนให้คุณไปลงทุนแปลก ๆ โดยอ้างว่า Satoshi Nakamoto มาชวนให้ลงทุนเองเลย จงมารีบลงทุนกันเถอะ ก็ขอให้ยับยั้งชั่งใจสักนิด แล้วบอกกับมันไปเลยว่า กุไม่เชื่อ เพราะกุนี่แหละคือ Satoshi Yakamoto ตัวจริง อย่าลืมพูดญี่ปุ่นใส่มันอย่างคล่องแคล่วเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เริ่มเลยละกัน

‘Toyota,  Honda, Suzuki, Yamaha, Kobori, โตมิโตกุโชดะ ซาโยนาระ เฟ็ดด…เฟ่’

สำหรับวันนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ นะออเจ้า เอาซะหน่อยเดี๋ยวตกเทรนด์