ส่วนผสมในน้ำหอม คุณรู้จักมันดีแค่ไหน? หากคุณเคยถามตัวเองว่า “ไอ้นี่มันคือตัวอะไร?” เมื่อคุณพยายามทำความรู้จักกับ ส่วนผสมในน้ำหอม ที่พิมพ์อยู่ข้างกล่อง คำตอบของคุณคือ “ไม่ดีเลย” แต่ไม่เป็นอะไร เพราะนี่คือ อภิธานคำศัพท์ ตั้งแต่ A_Z ที่รวบรวมเอารายการ น้ำมันหอม ที่นิยมใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ซึ่งเราหวังว่า รายชื่อทั้งหมดด้านล่างนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงที่มาของกลิ่น ในน้ำหอมขวดโปรดของคุณได้เป็นอย่างดี
อภิธานคำศัพท์ ส่วนผสมในน้ำหอม
Agrumen Aldehyde
เป็นสารประกอบอินทรีย์ สังเคราะห์มาจากธรรมชาติ เป็นของเหลวใส สีเหลืองอ่อน หรือสีเขียว ละลายในแอลกอฮอล์ ไม่ละลายในน้ำ มีกลิ่นหอมกลาง ๆ สดใส สะอาด ของสมุนไพร หรือส้มซิททรัส หรือกลิ่นเบา ๆของน้ำมันชะมด
Amber อำพัน
Amber ในที่นี้ไม่ใช่อัญมณี แต่เป็นการสังเคราะห์ขึ้น จากส่วนผสมหลาย ๆ อย่าง ตามจินตนาการของศิลปิน เช่น วานิลลา (Vanilla) กำยาน (Benzoin) ยางจากไม้หอมต่าง ๆ จนได้สีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล คล้ายกับอำพัน ที่จะให้กลิ่นหนักแน่น เต็มไปด้วยความอบอุ่น
Ambergris
เป็นสารที่มีสีเทาหม่น หรือดำคล้ำ เกิดจากระบบย่อยอาหาร ที่ขับถ่าย หรือสำรอกออกมาทางปากของวาฬหัวทุย เมื่อสดใหม่ จะมีกลิ่นเหม็นคล้ายอุจจาระ เป็นก้อนสีดำ และนิ่ม แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะแข็งเป็นก้อน มีสีคล้ำ ไปจนถึงขาว และให้กลิ่นหอมลึกล้ำ ซึ่งได้รับการยกย่องจากศิลปิน นำมาใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ที่มีคุณสมบัติติดทนนาน และราคาสูง แต่เนื่องจากการซื้อขาย Ambergris เป็นเรื่องผิดกฎหมายในหลายประเทศ เพราะมีการล่าวาฬ และผ่าเพื่อเอา Ambergris จึงมีการสังเคราะห์สารอื่น เพื่อนำมาใช้ทดแทน
Ambrette
Ambrette หรือ Musk Mallow ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นของอินเดีย เมล็ดมีกลิ่นหอม รู้กันดีว่า เป็นพืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณทางยา เดิมใช้เป็นยาบำรุงธาตุ ขับลม เมล็ดที่บดเป็นผง สามารถกันแมลงในตู้เสื้อผ้าได้ มีกลีบดอกสีเหลือง โคนดอกสีแดงเมล็ดมีกลิ่นหอมฉุน เมื่อนำมาสกัด จะได้น้ำมันหอม ที่ใช้แทนกลิ่นชะมดที่มีราคาแพงได้ เป็นส่วนผสมที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม และยาสูบ
Amyris
เป็นไม้ดอกในตระกูลส้ม พบมากในเฮติ และแถบอเมริกาใต้ มีสมบัติติดไฟง่าย มีกลิ่นหอมค่อนข้างแรง เดิมใช้เป็นสมุนไพร ที่มีสรรพคุณทางยา นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมแลคเกอร์ ด้วยที่มีกลิ่นหอมมาก จึงถูกนำมาสกัดเป็น ส่วนผสมในน้ำหอม สามารถใช้แทนสารสกัดจาก Sandal Wood ที่ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม
Benzoin กำยาน
เป็นเรซิ่น ที่เรียกว่า balsamic resin ที่สกัดมาจากต้นสเทอแร็กซ์ (styrax tree) มักใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม ที่ไม่เพียงกลิ่นที่หอมของมัน แต่มันถูกใช้เป็นตัวตรึงกลิ่น เพื่อยืดอายุกลิ่นหอมให้เนิ่นนานออกไปยิ่งขึ้น เดิมใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมธูป
Bergamot มะกรูด
ผลมะกรูดในที่นี้ เป็นลูกผสมระหว่างมะนาว กับส้มเซวิลล์ มีรสเปรี้ยว ผิวขรุขระ มีแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่ในอิตาลี ก่อนขยายไปปลูกที่อาเจนตินา และบราซิล มีกลิ่นหอมสดชื่น นิยมใช้เป็นส่วนผสมในการทำน้ำหอม ในขณะที่มะกรูดจากแหล่งอื่น ๆของโลก ถูกชี้ว่าให้คุณภาพไม่ดีพอที่จะใช้ในการสกัดเพื่อธุรกิจนี้
Calone
เรียกอีกอย่างว่า กลิ่นแตงโมคีโตน ศิลปินจะสร้างสรรค์สารเลียนแบบ ที่จะมีกลิ่นสะอาด สดชื่นของทะเล กลิ่นโอโซนเข้มข้น แฝงด้วยกลิ่นดอกไม้ เจือด้วยกลิ่นเปลือกแตงโมคีโตน ซึ่งกลิ่นนี้จะถูกสังเคราะห์เป็น สารอะโรมาติกที่ชื่อว่า Methybenzodioxepinone ที่ให้มีกลิ่นแตกต่างกันไป เป็นกลิ่นผลไม้อื่น ๆ เช่น เกรปฟรุ๊ต มะม่วง มะเฟือง กีวี และแคนตาลูป
Cashmeran
เป็นส่วนผสมสังเคราะห์อัลดีไฮด์ ที่ให้กลิ่นหอมฉุน เลียนแบบกลิ่นดอกไม้ กลิ่นผลไม้ กลิ่นชะมด กลิ่นเปลือกไม้ ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติ ป่าไม้ ท้องทะเล หรือกลิ่นที่เป็นนามธรรม เป็นส่วนผสมหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในวงการน้ำหอม
Castoreum
เป็นกลิ่นจากตัวบีเวอร์ ที่เป็นกลิ่นที่ขับออกมาจากกระเปาะทรงรี ที่อยู่ระหว่างทวารหนัก กับอวัยวะเพศ ซึ่งจะส่งกลิ่นหอมเหมือนหนังเมื่อทิ้งไว้เมื่อเวลาผ่านไป และจะให้กลิ่นหอมติดทนนาน
Citron มะนาว และพืชที่คล้ายกัน
เป็นพืชที่อยู่ในตระกูล มะนาว เป็นพันธ์ดั้งเดิม ที่เมื่อถูกผสมตามธรรมชาติ หรือพัฒนาโดยมนุษย์ จนเกิดรูปแบบที่หลากหลาย แต่ก็มีความเกี่ยวพันทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิด ผลของ Citron มีรสเปรี้ยวคล้ายมะนาว แต่ผลมีขนาดใหญ่กว่า มีเยื่อบาง ๆคล้ายกระดาษห่อหุ้มอยู่ เปลือกหนา ต้นเป็นพุ่มเล็ก มักปลูกในพื้นที่เขตร้อน เปลือกสามารถนำมาแปรรูปใช้ในอุตสาหกรรม เค้ก และพุดดิ้ง มีการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในแถบเอเชีย เช่นปรุงรสอาหาร ส่วนผสมในยาแผนโบราณ และใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ในอุตสาหกรรมน้ำหอม จะสกัดเพื่อเอา น้ำมันหอม มาใช้เป็นส่วนผสม
Civet ชะมด
ชะมด เป็นสัตว์ที่มีหลายสายพันธ์ แต่พันธ์ที่สามารถผลิตไขชะมด ที่ให้กลิ่นหอมได้คือ พันธ์ข้างลาย และพันธ์เครือ ชะมดมีต่อมผลิตฟีโรโมน อยู่ใกล้กับช่องปัสสาวะ ไขชะมดจะถูกป้ายไปตามสิ่งต่าง ๆ เพื่อเป็นการประกาศอาณาเขต หรือเรียกร้องความสนใจ ไขชะมดจะมีกลิ่นหอมรุนแรง ที่ก่อนนำไปใช้งาน ต้องทำการปรับปรุง เพื่อแยกสิ่งเจือปนออก กลิ่นหอมจากไขชะมด เป็นที่คลั่งไคล้ต่อคนทั่วไป มักนิยมใช้ร่วมกับกลิ่น วานิลลา หรือ กลิ่นไม้ เนื่องจากไขชะมดมีกลิ่นหอมรุนแรง จึงใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ในปริมาณเพียงเล็กน้อย นอกจากมีกลิ่นหอมแล้ว ไขชะมดยังถูกใช้เป็นตัวตรึงกลิ่นในน้ำหอม เพื่อให้มีกลิ่นหอมล้ำลึก อบอุ่นได้อย่างยาวนาน
Clary Sage
Clary Sage เป็นพืชดอก ที่มีต้นกำเนิดที่ ฝรั่งเศส โมร็อคโค รัสเซีย ดอกมีกลิ่นหอม นำมากลั่นด้วยไอน้ำ จะได้น้ำมันใส ไม่มีสี หรือได้สีเหลืองอมเขียวอ่อน ๆ มีกลิ่นหอมฉุน แต่แตกต่างจากกลิ่นหอมฉุนของส่วนผสมที่ได้จาก อำพัน หรือใบยาสูบ ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการแปรปรวนในหญิงที่มีประจำเดือน รักษาสมดุลของฮอร์โมนในสตรี ลดอาการบวม บรรเทาอาการปวด น้ำมันหอม จากดอก Clary Sage มีสมบัติในการควบคุมความมันของผิว เส้นผม จึงใช้ในอุตสาหกรรมบำรุงเส้นผม และผิว ต่อมามีการนำไปใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ซึ่งเข้ากันได้ดีกับ ส่วนผสมที่สกัดจาก Lavender, Cedar Wood, Sandal Wood, Frankincense, Geranium และ Juniper Berry การใช้ น้ำมันหอม จาก Clary Sage อาจมีข้อจำกัด และควรระวัง ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
Coumarin
Coumarin ตามธรรมชาติสกัดได้จาก Tonka Bean, Vanilla Glass, Sweet Woodruff, Sweet Clover, และ Cassia Cinnamon แต่ในอุตสาหกรรมน้ำหอม มักจะสังเคราะห์ขึ้นมาจากน้ำมันดิน (Coal Tar) ใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำหอม ที่ได้รับความนิยมสูงมาก กล่าวกันว่าสูตรน้ำหอมถึง 90 เปอร์เซ็นต์ จะมี Coumrin เป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเสมอ จะให้กลิ่นหอมหวาน สดชื่น ที่กลิ่นหอมของมัน จะถูกปลุกขึ้นจากส่วนที่เป็น Base Note บนสามเหลี่ยมคลาสสิก และเข้าสู่ส่วนที่เป็น Heart Note จากนั้นกลิ่นหอมก็ยังคงเอ้อระเหย นัวเนียอยู่บนผิวเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
Frangipani ลีลาวดี
เรียกอีกอย่างว่า Plumeria ลีลาวดี เป็นพืชที่เติบโต แพร่กระจายในเขตร้อน มีรูปทรงของลำต้น ดอก และใบที่สวยงามคลาสสิก มี กลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้นึกถึง สวนในนิทานพื้นบ้าน ผูกพันกับประเพณี สังคม การเมือง และศาสนา และในบางภูมิภาค เป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวพันกับความสูญเสีย ดอกเป็นกลีบเดี่ยวเรียงกันเป็นวง มีสีขาว เหลือง หรือชมพู มีกลิ่นหอม อันเป็นที่รวมของกลิ่นหลากหลายเช่น กลิ่นครีม กลิ่นหนัง กลิ่นดอกการ์ดีเนีย ส่วนผสมที่สกัดจากดอกลีลาวดี สามารถจับคู่ได้กับกลิ่นของผลไม้ ในวงการน้ำหอมยกให้ ลีลาวดีสีชมพูจากออสเตรเลีย เป็นต้นแบบของกลิ่นหอม กลิ่นของลีลาวดีเป็นที่ดึงดูดของคนโรแมนติกเช่น นักเดินทาง นักท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่กลิ่นของมันจะแรงขึ้นในตอนกลางคืน เดิมใช้เป็นสมุนไพรรักษาอาการคัน และไข้ ต่อมาถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำหอม
Frankincense หรือ Olibanum กำยาน
ต้นไม้ในสกุล Boswellia ที่มีมากในแถบโอมาน เยเมน โซมาเลีย และประเทศในแถบทะเลแดง ให้ดอกขนาดเล็ก ห้ากลีบ ที่มีสีขาว ไปจนถึงแดงอ่อน ๆ ยางมีกลิ่นหอม น้ำยางที่ไหลออกมาจากแผลที่ถูกกรีด จะตกผลึก และแข็งตัว เมื่อสัมผัสกับออกซิเจน คุณภาพของกำยานจะขึ้นกับสี และความบริสุทธิ์ สกัดเอากลิ่นด้วยไอน้ำ กำยานที่ได้จาก Boswellia Sacra จากโอมาน เป็นกำยานที่มีกลิ่นหอมพิเศษ ที่สงวนไว้สำหรับกษัตริย์ และราชินี กำยานใช้เป็นประโยชน์มากที่สุด ในการทำเป็นเครื่องหอม ในพิธีกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการไล่ยุง และแมลงต่าง ๆ
Galbanum
เป็นพืชเขตร้อน ให้ยางที่มีกลิ่นหอม มีลักษณะ และความหนาแน่นแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นก้อนโปร่งแสง ที่มีความแข็ง มีสีแตกต่างกันไป จากสีเหลือง สีน้ำตาลอ่อน สีเขียวอ่อน ไปจนถึงสีเขียวเข้ม มีรสฝาดขม และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ถูกนำมาใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม
Guaiac Wood
น้ำมันหอม Guaiac Wood ผลิตขึ้นจากการกลั่นด้วยไอน้ำของยาง จากต้น Palo Santo (Bulnesia Sarmientoi) ที่พบมากในแถบอเมริกาใต้ (ไม่ใช่จากต้น Guaiacum) จนได้น้ำมันหอมที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกุหลาบ ผสมกับกลิ่นใบชา นิยมใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น และหรูหรา
Hedione
Hedione เป็นสารสังเคราะห์ที่ชื่อว่า methyl dihydrojasmonate ที่ใช้เป็นสารทดแทนกลิ่นดอกมะลิ ที่เข้าได้ดีกับส่วนผสมธรรมชาติที่ได้จาก Jusmine, Grandiflorum, Floral, Citrus, Wood ให้กลิ่นนุ่มนวลของกลิ่นมะลิธรรมชาติ
Heliotrope
เป็นพืชดอกเขตร้อน แนววินเทจ ที่ถูกนำมาขยายพันธ์อยู่ในยุโรป เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 15 นิ้ว ไปจนถึง สี่-ห้า ฟุต มีกลีบดอกห้ากลีบ คล้ายกับดอก Forget me not มีสีขาว ไปจนถึงม่วง มีกลิ่นหอมพิเศษของ เชอรรี่ อัลมอนด์ และวานิลลา ด้วยกลิ่นที่ซับซ้อน จึงนำมาทำเป็น ส่วนผสมในน้ำหอม
Indole
Indole มีทั้งแบบกลั่นจากธรรมชาติ และเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบกลิ่นดอกมะลิ ซึ่งส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ จะมีราคาแพงมาก ปัญหาจะเกิดขึ้น หากใช้ในปริมาณความเข้มข้นต่ำ ประมาณ 200 ppm ถึงประมาณ 0.01 เปอร์เซ็นต์ จะได้กลิ่นดอกไม้สดใส เปล่งปลั่ง และมีพลัง ที่ทำให้เราระลึกถึงกลิ่นของ ดอกมะลิ ดอกซ่อนกลิ่น และส้มซิททรัส แต่ถ้าใช้ในปริมาณเข้มข้นสูงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ จะให้กลิ่นรุนแรงของ ลูกเหม็น มูลสัตว์ หรือซากสัตว์ ซึ่งสร้างภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จนทำให้เกิดการบิดเบือนข้อเท็จจริงออกไป ด้วยเหตุนี้การใช้ Indole ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะให้ในปริมาณความเข้มข้นไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์
Iso E Super
เป็นสารสังเคราะห์ประเภทคีโตน ที่ถูกค้นพบในปี 1973 และได้รับการปรับปรุงเรื่อยมา มีกลิ่นที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมากของ กลิ่นไม้แห้ง ไม้ซีดาร์ Ambergris มีลักษณะโปร่งใส และเป็นกลาง ไม่รู้สึกหนัก แต่กลับนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่เมื่อใช้ ให้ความหอมเปล่งประกายออกมาจากผิวอย่างรู้สึกได้ เป็นที่นิยมอย่างมากในสูตรน้ำหอมที่ทันสมัย
Jasmine ดอกมะลิ
ในขณะที่น้ำมันหอมกลิ่นกุหลาบได้รับการยกย่องว่าเป็น ราชินีแห่งน้ำมันหอมแล้ว น้ำมันหอมกลิ่นมะลิ ก็ได้รับการขนานนามว่า เป็นราชาแห่งน้ำมันหอมด้วยเช่นกัน มะลิเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบเอเชีย จีน อินเดีย เมื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันจะได้น้ำมันหอมที่มีมูลค่ามากที่สุดชนิดหนึ่ง ประเมินว่าต้องใช้ดอกมะลิประมาณ 8000 กำมือ เพื่อสกัดให้ได้ น้ำมันหอม 1 กรัม หรือ 1 มิลลิลิตร ที่เป็นของเหลวหนืดใส สีเหลืองน้ำตาล ที่มีกลิ่นหอมอันละเอียดอ่อน ใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ที่มีราคาแพง
Labdanum
เป็นพืชในตระกูล Citrus ที่พบมากในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตัวน้ำมันหอมจะถูกสกัดมาจากส่วนที่เป็นยาง จนได้น้ำมันหอมสีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะข้นเหนียว มีกลิ่นหอมลึก หนักแน่น เป็นตัวตรึงกลิ่นได้ยาวนาน เข้ากันได้ดีกับน้ำมันหอมหลายชนิดเช่น มะกรูด(Bergmot) แซนดอลวู๊ด (Sandal Wood) ลาเวนเดอร์ (Lavender) กุหลาบ (Rose) มะนาว (Citron) แครีเสจ (Clary Sage) เนื่องจากมีคุณสมบัติในการตรึงกลิ่นที่ดี จึงนิยมใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ที่เป็น Base Note บนสามเหลี่ยมคลาสสิก
Monoi
บางครั้งเรียกว่า Monoi de Tahiti เป็นน้ำมันหอมที่ได้มาจาก กลีบดอกของต้น Tahitian Gardenias หรือ Tiare เมื่อผสมกับน้ำมันมะพร้าวจะได้กลิ่นหอมเป็นที่นิยมใน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เดิมมีการใช้แพร่หลาย เพื่อช่วยในการปรับสภาพผิว และเส้นผม
Muguet (ดอกมูเกท์)
นอกเหนือจากกุหลาบ และมะลิแล้ว ดอกมูเกท์เป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่ง ที่นำมาสกัดเป็นส่วนผสมในน้ำหอม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด Muguet หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Lily of the Valley เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นดอกไม้ที่มอบให้แก่กันในวันแรงงานสากล การสกัดจากดอกมูเกท์ธรรมชาติ เป็นไปได้ยากในเชิงพาณิชย์ จึงมีการสกัดจากดอกฟรีเซียร์แทน การสังเคราะห์กลิ่นของดอกมูเกท์ขึ้นมาใหม่ กลิ่นหอมที่ได้ เกิดขึ้นจากการผสมผสานของส่วนผสมตามธรรมชาติ โดยปกติจะเป็นกลิ่นส้ม จัสมิน ดอกส้ม หรือดอกกุหลาบ นิยมใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม
Musk กวางชะมด กวางแวมไพร์
เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก ตระกูลเดียวกับกวาง พบมากตามป่าบนภูเขาสูง ในจีน และเนปาล มีตัวสั้นป้อม สีน้ำตาลแดง หางสั้น ไม่มีเขา ตัวผู้มีเขี้ยวบน ยาวงอกออกมาจากปาก จนบางคนเรียกว่า กวางแวมไพร์ ระหว่างสะดือ กับอวัยวะเพศ จะมีต่อมกลิ่น ที่ให้สารหอม เรียกว่า ชะมดเชียง หรือ กลิ่นมัสค์ (Musk) เดิมเป็นส่วนผสมในตำรับยาแผนโบราณ สรรพคุณ แก้โรคลม โรคเลือด โรคตา เส้นประสาท หอบหืด และใช้แต่งกลิ่นหอมต่าง ๆ มีสีขาวคล้ายขี้ผึ้ง ที่จะผลิตได้จากต่อมกลิ่นของกวางชะมดเพศผู้ ชะมดเชียงถือว่า เป็นสารที่มีสรรพคุณสูง และราคาแพงมาก มีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม ระยะหลังมีการสังเคราะห์กลิ่นเลียนแบบ กลิ่นมัสค์ เพื่อใช้ทดแทน musk ที่ได้จากธรรมชาติ ในน้ำหอม หรือโคโลญจน์สำหรับผู้ชาย มักมีส่วนผสมที่มีกลิ่น musk อยู่ด้วยเสมอ
Myrrh ยางไม้หอมเมอร์
Myrrh เป็นพืชที่มีหลายสายพันธ์ พันธ์ที่เรียกว่า Commiphora Myrrha เป็นสายพันธ์ที่มักใช้ในการผลิตไม้หอม พบมากในเคนยา เอธิโอเปีย ซาอุดิอารเบีย โซมาเลีย และโอมาน ลำต้นมีหนาม ใบน้อย สูงได้เต็มที่ประมาณเก้าฟุต ยางมีกลิ่นหอมหวานอ่อน ๆของไม้ เดิมใช้ทำยาหม่อง หรือบาล์ม และใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ ยากล่อมประสาท ในตำราโบราณของอียิปต์ มันถูกใช้ในการแต่งศพเช่นเดียวกับกำยาน เมื่อกรีดที่ลำต้นจนเป็นแผล จะมีน้ำยาง หรือเรซิ่น ไหลออกมา เมื่อแข็งตัว จะถูกนำมาสกัดโดยการกลั่นด้วยไอน้ำ และการสกัดด้วยแอลกอฮอล์ จะได้น้ำมันที่มีกลิ่นหอม ที่มีกลิ่นอายตะวันออก ให้ความรู้สึกเปล่งประกาย และร่าเริง
Narcissus
เป็นไม้ดอกที่มีลักษณะพิเศษคือ ก้านดอกเป็นกระเปาะ มักออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกมีสีเหลือง หรือขาว อาจมีสีส้ม แดง และชมพู ลักษณะดอกคล้ายกับทรัมเป็ต มีใบยาวสีเขียวอ่อน มีหลายสายพันธ์ ที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น เดฟโฟดิล โคโรนา และนาซิสซัส พบมากในแถบยุโรปตะวันตกเฉียงใต้ แอฟริกาเหนือ จีน มีการอ้างว่ามันมีแหล่งกำเนิดมาจากเปอร์เซีย นำดอกนาซิสซัสมาสกัดด้วยตัวทำละลาย จะได้น้ำมันหอมที่มีราคาแพงมาก เนื่องจากดอกนาซิสซัส ปริมาณ 500 กิโลกรัม เมื่อสกัดแล้วจะได้ของเหลวเพียง 1 กิโลกรัม ที่จะเปลี่ยนมาเป็นน้ำมันหอมได้เพียง 300 กรัมเท่านั้นเอง น้ำมันหอมนาซิสซัส มีกลิ่นของใบไม้ ผสมกับกลิ่นดอกมะลิ ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม ซึ่งแต่โบราณชาวอาหรับ ใช้มันสำหรับทำน้ำหอมมาก่อนแล้ว นอกจากนี้มันยังมีสรรพคุณในการรักษาศรีษะล้าน โรคลมชัก และฮิสทีเรีย หรือใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เช่นลิปสติค สบู่ นาซิสซัส เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี การได้รับ การตื่นขึ้น และความหวัง
Neroli
Neroli เป็นกลิ่นหอมที่ได้จากต้นส้มขม (Citrus Aurantium) ที่มีปลูกกันอย่างแพร่หลายในอินเดีย และแอฟริกา ซึ่งมีลักษณะกลิ่นรวม ๆ ของ ซิททรัส ดอกไม้ น้ำผึ้ง ความขม ให้ความรู้สึกบางเบา บริสุทธิ์ หอมโรแมนติก เป็นกลิ่นหอมของดอกส้มที่มีรสเปรี้ยวจัด เจือด้วยรสขม ที่ทำให้ส้มชนิดนี้มีกลิ่นหอมกว่าส้มสายพันธ์อื่น เกือบทุกส่วนของส้มชนิดนี้ถูกนำมาผลิตเป็นน้ำมันที่มีกลิ่นหอม เปลือกของผลส้มนำมาทำเป็นน้ำมัน Petitgrain ส่วนที่เป็นดอกส้มสีขาวนำมาสกัดเป็น Neroli ด้วยเหตุที่ดอกส้มมีกลิ่นหอมสดชื่น จึงทำให้น้ำมันสกัดที่ได้ เป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม
Oakmoss
Oakmoss หรือ Evernia Prunastri เป็นสายพันธ์ตะไคร่ ที่เจริญเตอบโตตามกิ่ง และลำต้นของต้นโอ๊ค พบมากในป่าเขตอบอุ่นของภูเขาแถบซีกโลกเหนือ มีสีแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ สีขาว สีเขียว หรือสีเหลือง เมื่อนำมาสกัดด้วยตัวทำละลาย หรือกลั่นด้วยสุญญากาศ จะได้น้ำมันที่มีสีเขียวเข้ม หรือสีน้ำตาล ให้กลิ่นหอมของ ดิน เปลือกไม้ ใบไม้ ผืนป่า ที่แหลมคม เย้ายวน เข้ากันได้ดีกับกลิ่นของดอกไม้ เป็นตัวตรึงกลิ่นที่ดี ใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในการทำน้ำหอม มีรายงานถึงความกังวลต่ออาการแพ้ทางผิวหนัง จึงมีการจำกัดการใช้ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
Opopanax
Opopanax หรือ Opoponax สมุนไพรที่เติบโตในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ (โซมาเลีย) และแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นที่รู้จักกันในนามไม้หอม หวาน ยาง หรือเรซิ่น มีกลิ่นคล้ายกับยาหม่อง หรือลาเวนเดอร์ หรือน้ำผึ้ง สีของน้ำยางเป็นสีน้ำตาล มีการระบุว่า น้ำยางที่มีสีแดงเข้ม จะให้คุณภาพที่ดีกว่า แต่เดิมใช้ทำธูป และเป็นสมุนไพร น้ำยางถูกนำมาสกัดด้วยตัวทำละลาย หรือการกลั่นด้วยไอน้ำ จะได้น้ำมันหอม ที่มีกลิ่นของซุปผักอ่อน ๆ ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม
Orris โอริส
ได้มาจากส่วนราก หรือหัวของต้นไอริส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีความสำคัญในตำรับยาสมุนไพรตะวันตก เริ่มจากการนำหัว หรือรากไอริสมาทำให้แห้ง ที่ต้องใช้เวลานานกว่าห้าปี หรือมากกว่า ขึ้นกับว่าจะนำมันไปใช้ประโยชน์อะไร นำไปกลั่นด้วยไอน้ำ จนได้น้ำมันหอมสีเหลืองอมน้ำตาล ซึ่งรากไอริสหนึ่งตัน จะให้น้ำมันหอมเพียงสองกิโลกรัม ทำให้น้ำมันหอม Orris มีราคาแพงมาก จึงมีการสังเคราะห์สารเลียนแบบเพื่อนำมาใช้ทดแทนน้ำมันหอม Orris ธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม
Osmanthus
เป็นพืชดอกที่มีถิ่นกำเนิดแถบตะวันออกไกล ในจีนเรียกว่า กุ้ยหวา เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของเมืองหางโจว และในญี่ปุ่นเรียกว่า คินโมกุไซ มีดอกสีเหลืองทอง เมื่อนำมาสกัดจะได้ น้ำมันที่มีกลิ่นเหมือนผลไม้พวก พลัม แอปริคอต หรือพรุน แม้ว่า Osmanthus จะไม่ค่อยได้รับความนิยมในโลกตะวันตก เฉกเช่นดอกไม้ชนิดอื่น แต่ด้วยความละเอียดอ่อนของกลิ่นที่ซับซ้อนของกลิ่น Osmanthus ทำให้คุณหลงเสน่ห์มันได้ไม่ยากเลย น้ำมันหอมจาก Osmanthus ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม ที่มีราคาแพงมาก (ประมาณ 120000 บาทต่อกิโลกรัม)
Oud (Oudh) ไม้กฤษณา
Oud เป็นไม้ยืนต้น สายพันธ์ Aquilaria พบได้ในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปเช่น กฤษณา กาฮารู อาการ์ โลซา และอู๊ดในภาษาอาหรับ ถือว่าเป็นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ลำต้น และยาง (resin) มีกลิ่นหอม เดิมใช้ประโยชน์เกี่ยวกับศาสนา ทำเป็นธูปคุณภาพสูง มีความหอมล้ำลึก มีกลิ่นที่สมดุล น้ำยางจากต้นกฤษณา เมื่อนำมาสกัดด้วยไอน้ำ หรือคาร์บอนไดออกไซด์ จะได้น้ำมันหอมใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม มีการประมาณว่า ต้องใช้เรซินถึง 1.5 ตัน เพื่อสกัดให้ได้น้ำมันหอม 1 กิโลกรัม ทำให้น้ำมันหอมจากไม้กฤษณามีราคาแพงมาก ประเมินว่า น้ำมันหอมจากไม้กฤษณา 1 กิโลกรัม มีมูลค่ามากกว่า 600000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นส่วนผสมในน้ำหอม ที่มีราคาแพงที่สุด ต่อมามีการสังเคราะห์สารเลียนแบบ เพื่อใช้ทดแทนกลิ่นหอมของไม้กฤษณา
Ozone โอโซน
โน้ตสังเคราะห์ที่ให้กลิ่นทันสมัย หมายถึงการเลียนแบบกลิ่นของละออง หรืออากาศบริสุทธิ์ มันเป็นกลิ่นของอะไรสักอย่าง ที่ให้ความรู้สึก ชุ่มชื้น สะอาด มีประกายแวววาว เหมือนมีฟองผุดฟุ้งอยู่ในอากาศ หรือกลิ่นอากาศหลังฝนตก เป็นสารสังเคราะห์ที่อยู่ในกลุ่มอัลดีไฮด์ เพื่อเพิ่มกลิ่นอายธรรมชาติ ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม
Patchouli
เป็นไม้พุ่ม ที่มีมากในมาเลเซีย และอินเดีย อยู่ในตระกูล มินต์ ต้นมีขนาดประมาณสองถึงสามฟุต มีดอกขาวอมชมพู ไปถึงแดง มีใบหอม น้ำมันหอมจาก Patchouli ได้จากการนำใบมาอบแห้ง จากนั้นนำไปกลั่นด้วยไอน้ำ หรือสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ จะได้น้ำมันที่มีกลิ่นเข้มข้น เผ็ดร้อนของ บัลซามิก แฝงด้วยกลิ่น มินต์ มีกลิ่นที่ค่อนข้างเด่นชัด ที่เข้ากันได้ดีกับกลิ่น Sandal Wood ,Cedar Wood, Lavender, Rose และอื่น ๆ มักใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม ส่วนที่เป็น Base Note บนสามเหลี่ยมคลาสสิก
Rose ดอกกุหลาบ
ด้วยรูปทรงของดอก และกลิ่นอันเย้ายวนโรแมนติก กุหลาบจึงได้ชื่อว่าเป็น ราชินีแห่งดอกไม้ ซึ่งมีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานคลาสสิกของกุหลาบ ที่ไปเกี่ยวพันกับเทพนิยายกรีกอย่าง เทพอโฟรไดท์ หรือโรมันอย่าง เทพธิดาวีนัส และที่ลืมไม่ได้คือ ตำนานอันลือลั่นของราชินีอียิปต์อย่าง คลีโอพัตรา ต้นกุหลาบที่พบอยู่ทั่วโลก แต่ที่นิยมนำมาสกัดเป็นส่วนผสมในน้ำหอมคือ กุหลาบจากตุรกี ดามัสกัส กุหลาบร้อยใบทางใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งน้ำมันกุหลาบถึง 70 เปอร์เซ็นต์ มาจากบัลแกเรีย การสกัดน้ำมันหอมจากดอกกุหลาบทำโดย การกลั่นด้วยไอน้ำ หรือสกัดด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ มีการประเมินว่าหากต้องการน้ำมันหอมจากดอกกุหลาบสักหนึ่งหยด ต้องใช้ดอกกุหลาบถึง 170 ดอกในการสกัด นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ น้ำมันหอมจากดอกกุหลาบ เป็นส่วนผสมในน้ำหอม อย่างหนึ่งที่แพงที่สุด
Rose de Mai โรสเดอไม
เป็นภาษาฝรั่งเศส คำว่า Mai หมายถึง เดือนพฤษภาคม รวม ๆแล้วคือ กุหลาบแห่งเดือนพฤษภาคม กุหลาบสายพันธ์ Rosa Centifolia ที่ปลูกมากในเมืองกราส (Grasse) ฝรั่งเศส ที่ถือว่าเป็น เมืองหลวงแห่งน้ำหอมของโลก ถูกนำมาสกัดด้วยตัวทำละลาย ได้น้ำมันหอม ที่เข้าได้ดีกับกลิ่นดอกไม้อื่น ๆ เช่น กระดังงา เจอราเนียม คาโมไมล์ มะกรูด ที่ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม เดิมใช้น้ำมันหอมนี้ในการดูแลผิวพรรณ ให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น และลดริ้วรอย และใช้สำหรับบรรเทาอาการเครียด ลดอาการไมเกรน ด้วยกลิ่นหอม เย็น ให้ความรู้สึกสงบ แต่ยั่วยวน และหรูหรา จึงถูกนำมาเป็นส่วนผสมในน้ำหอม
Sandal Wood ไม้จันทน์
เป็นพืชในสกุล Santalum ที่พบมากในอินเดีย ซี่งมีคุณภาพที่ดีกว่า ไม้จันทน์จากออสเตรเลีย และนิวแคลิโดเนีย ซี่งมีกลิ่นที่รุนแรงกว่า เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อาจสูงถึง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.4 เมตร และจะให้น้ำยางมากที่สุด เมื่อมีอายุเกิน 60 ปี น้ำยางถูกนำมาสกัดด้วยไอน้ำ จะได้น้ำมันหอมสีน้ำตาลทอง มีความหนืดเหนียว มีกลิ่นหอมของไม้ นุ่มนวล มีความหอมทนทาน จึงทำให้อ้อยอิ่งอยู่บนผิวได้เป็นเวลานาน นิยมใช้เป็น Base Note บนสามเหลี่ยมคลาสสิก ในสูตรน้ำหอม น้ำมันหอมจากต้นจันทน์นี้ เป็นหนึ่งในส่วนผสมในน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่ง
Tonka Bean
เป็นพืชเมืองร้อน พบมากในแถบอเมริกาใต้ในชื่อ Dipteryx Odorata หรือ Cumaru หรือ Kumaru มีดอกสีม่วงสวยงาม มีเมล็ดสีดำที่เหี่ยวย่น เรียกว่าถั่วทองกา ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่น และรสของวานิลลา แฝงด้วยกลิ่นอบเชย หญ้าฝรั่น กานพลู และอัลมอนด์ กรรมวิธีเริ่มจากการนำถั่วทองก้า ไปแช่ในเหล้ารัม ทิ้งไว้อย่างนั้น 12-24 ชั่วโมง จากนั้นนำมาผึ่งให้แห้ง จะเกิดผลึกสีขาวคล้ายแป้ง เรียกว่าคูมาริน (Coumarin) ที่อุดมไปด้วยน้ำมันที่มีกลิ่นหอม และมีรสขมมาก นำมาสกัดได้น้ำมันหอม ที่ใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม ไม่แนะนำให้รับประทานถั่วทองก้านี้ เพราะเป็นอัตรายต่อตับ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในสูตรอาหารพื้นบ้านมีการใช้ Coumarin เป็นตัวแต่งกลิ่นอยู่เหมือนกัน ต่อมามีการสังเคราะห์สารที่มีกลิ่นหอมของ Tonka Bean เพื่อใช้ทดแทนสารสกัดจากธรรมชาติ
Tuberose ซ่อนกลิ่น
เป็นพืชสกุล Polianthes Tuberosa ที่เป็นไม้ดอกตระกูลเดียวกับ ลิลลี่ พบมากในเม็กซิโก และอเมริกากลาง ต่อมานำไปขยายพันธ์ในฝรั่งเศส อเมริกา จีน และอินเดีย มีดอกสีขาว หอมมาก แต่เดิมใช้เป็นดอกไม้ในงานศพ และทำยานอนหลับ หรือยาคลายเครียด ดอกซ่อนกลิ่น ให้กลิ่นหอมเย้ายวน หวาน และแฝงไปด้วยความหรูหรา ชวนให้หลงใหล ก่อนหน้านี้ มันเป็นดอกไม้ต้องห้ามสำหรับเด็กสาว ด้วยความเชื่อที่ว่า การดมกลิ่นของ Tuberose จะทำให้เกิดไฟปรารถนา และร้อนรุ่ม จนมันถูกขนานนามว่าเป็น นางคณิกาแห่งมวลน้ำหอม (Harlot of Perfumery) สมกับชื่อ ซ่อนกลิ่น ที่หอมเย้ายวน ลึกลับ และต้องห้ามจริง ๆ ดอกซ่อนกลิ่นจำนวน 1200 กิโลกรัม สามารนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมได้เพียง 200 กรัมเท่านั้น น้ำมันหอม จากดอกซ่อนกลิ่นจึงแพงมาก ต่อมาได้มีการสังเคราะห์สารเลียนแบบ เพื่อนำมาใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม
Vanilla วนิลา
เป็นไม้เลื้อยประเภทกล้วยไม้เขตร้อน มีหลายสายพันธ์ แต่มีเพียงสองชนิดเท่านั้น ที่นำมาผลิตในเชิงพาณิชย์คือ Planifolia และ Vanilla Tahitiensis พบมากในเม็กซิโก อเมริกาใต้ แคริบเบียน อินเดีย และอินโดนีเซีย แต่วานิลลาที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดมาจากเม็กซิโก แต่ก็มีปริมาณการผลิตไม่เพียงพอ ดังนั้นวานิลลาส่วนใหญ่ของโลก ได้มาจากมาดาร์กัสการ์ วานิลลามีดอกสีเหลือง หรือเขียวอมเหลือง ที่จะให้ฝักสีน้ำตาลดำซึ่งงอกมาจากดอก ฝักวานิลลา มีกลิ่นหอม เป็นที่คลั่งใคล้ของผู้คนทั่วไป เดิมใช้เป็นสารเติมแต่งในอาหาร และพบว่าเป็นส่วนผสมในตำรับยารักษาโรค การผลิตวานิลลาใช้เวลานาน ต้องปล่อยให้ฝักอ่อนติดอยู่บนต้น เป็นเวลา 8-9 เดือน แล้วจึงเก็บ และนำมาตากให้แห้ง ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณหกเดือน จึงจะได้ผลึกสีขาว ๆ เรียกว่า วานิลลิน (Vanillin) ทำให้มีราคาแพงมาก ต่อมาจึงมีการสังเคราะห์สารที่ให้กลิ่นเหมือนวานิลลา เพื่อใช้เป็น ส่วนผสมในน้ำหอม
Vetiver หญ้าแฝก
Vetiver หรือเรียกว่า Java หรือ Khus เป็นพืชที่ขึ้นได้ในที่ลุ่มชื้น ริมฝั่งน้ำ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ทั้งแห้งแล้ง และถูกน้ำท่วม เป็นพืชคลุมดิน ที่มีรากยาวได้ลึก 20-30 เซนติเมตร เดิมชาวอินเดีย ใช้บุเป็นผนังบ้าน ที่เมื่อพรมน้ำไปบนผนังหญ้า จะช่วยระบายความร้อน และให้กลิ่นหอม รากหญ้าแฝกนำมาทอเป็นเสื่อ และนำมาใช้ในพิธีกรรม หรือเวทย์มนต์พื้นบ้าน หญ้าแฝกมีต้นกำเนิดในอินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา ก่อนนำมาปลูกในฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น แอฟริกา อเมริกาใต้ รากหญ้าแฝกมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันแล้ว จะได้น้ำมันหอม ที่ระเหยช้า ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในน้ำมันหอมของอินเดีย ที่เรียกว่า Majmua น้ำมันหอมจากรากหญ้าแฝก สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์ ทำให้มันเข้าได้ดีกับส่วนผสมอื่น ๆ ของสูตรน้ำหอมตะวันตก เนื่องจากยังไม่พบการสังเคราะห์สารอื่น ๆ เพื่อใช้ทดแทนกลิ่นของน้ำมันหอมจากหญ้าแฝก ทำให้ความต้องการน้ำมันหอมจากรากหญ้าแฝก เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆทุกปี
Ylang Ylang กระดังงา
พบมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพืชเขตร้อนชื้น ที่โตเป็นต้น แต่ก็สามารถเลื้อยไปยึดเกาะตามหลักต่าง ๆได้ มีดอกสีเขียว และเมื่องอมจะมีสีเหลือง และให้กลิ่นหอมรุนแรง นำดอกมากลั่นด้วยไอน้ำ จะได้น้ำมัน ซึ่งมีการแบ่งเป็นเกรดต่าง ๆ เกรดที่ดีที่สุดจะถูกส่งไปทำเป็น ส่วนผสมในน้ำหอม ส่วนเกรดรอง ๆมาจะใช้ในการผลิตสบู่ หรือน้ำหอมราคาถูก กลิ่นดอกกระดังงา จะให้ลักษณะของกลิ่นดอกไม้ กล้วย หอมหวาน ซึ่งแตกต่างจากดอกมะลิ ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ และเร้าอารมณ์
สุดท้าย
ส่วนผสมในน้ำหอม มีทั้งแบบที่สกัดมาจากธรรมชาติ ซึ่งมีราคาแพง และสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทน น้ำมันหอม จากธรรมชาติ จากข้อความข้างต้น บางส่วนเผยให้เห็นถึงความยากลำบาก และค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้มาซึ่ง น้ำมันหอม นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหอมมีราคาแพง หลายคนจึงค่อนข้างพิถีพิถัน ในการเลือกน้ำหอม เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวเอง และให้ได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะ อธิบายลักษณะของกลิ่น เป็นภาษาเขียน วิธีที่ดีที่สุดคือการสูดดมกลิ่นหอมนั้นด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้นคุณจะได้ทำความเข้าใจถึง ความซับซ้อนของกลิ่น ที่ศิลปินได้รังสรรค์ไว้ เป็นโน๊ตต่าง ๆ บนสามเหลี่ยมคลาสสิกนั้นได้ดียิ่งขึ้น น้ำหอม จึงไม่ใช่เรื่องของกลิ่นหอมแต่เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เฉกเช่นบทเพลง ที่คอยประคองอารมณ์ และความรู้สึกให้ล่องลอยอ้อยอิ่ง อยู่บนเนินผิวของเราได้ตลอดทั้งวัน
3 thoughts on “ส่วนผสมในน้ำหอม : อภิธานคำศัพท์ A_ Z บนน้ำหอมขวดโปรด”