โน้ตในน้ำหอม ( Perfume Notes : Top Note : Heart Note : Base Note ) อาจเป็นคำที่ฟังดูแปลก ๆ สำหรับคนทั่วไป แต่เช่นเดียวกับโน้ตดนตรี ที่จะผสมผสานเสียง และโทนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเป็นบทประพันธ์อันทรงคุณค่า โน้ตในน้ำหอม ถูกรังสรรค์ไว้บนสามเหลี่ยมคลาสสิก ซึ่งจะเผยถึงกลิ่นหอม ที่สามารถสัมผัสได้เมื่อใช้น้ำหอม บนสามเหลี่ยมนั้น ประกอบด้วยส่วนผสมที่ใช้ในการทำน้ำหอม ที่สกัดมาจากพืช ดอกไม้ ดอกไม้ เปลือก และรากไม้ โมเลกุลที่สังเคราะห์ขึ้นจากส่วนผสมแต่ละชนิด จะถูกจัดประเภทให้เป็นโน้ตต่าง ๆ ที่ในแวดวงของอุตสาหกรรมผลิตน้ำหอม จะแบ่งเป็นสามประเภทคือ Top Note, Heart Note, และ Base Note ซึ่งเมื่อนำโน้ตทั้งสามมารวมกันแล้ว จะทำให้เกิดกลิ่นหอมที่ซับซ้อน

โน้ตในน้ำหอม (Perfume Notes) เรื่องราวแห่งสุนทรีย์ภาพ

น้ำหอมเป็นสิ่งกระตุ้นความรู้สึก และสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของบุคคลได้ การผสมผสานของโน้ตทั้งสาม สามารถสร้างเอกลักษณ์ ซึ่งคนทั่วไปสามารถเข้าใจ และรู้สึกได้อย่างไม่ยากนัก เมื่อคุณได้กลิ่นหอม จะมีวิธีบรรยายเรื่องราว และตัวละครของกลิ่น ที่อาจถูกนิยามว่าเป็นน้ำหอม การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง โน้ตทั้งสาม ที่เปรียบเป็นดั่งตัวละคร ที่ต้องเล่นบทบาทได้อย่างกลมกลืน เพื่อให้ได้กลิ่นหอมอันสมบูรณ์แบบ ที่ส่วนผสมจะสกัดมาจากธรรมชาติที่มีกลิ่นหอม

 ประเภทของ โน้ตในน้ำหอม (Perfume Notes)

ส่วนผสมที่สกัดได้ เรารู้จักกันในชื่อของเครื่องหอม (fragrance) โน้ตในน้ำหอม แต่ละอันมีจุดประสงค์ที่ไม่ซ้ำกัน และไม่มีการจำกัด จำนวนของส่วนผสม ที่สามารถเพิ่มลงในโน้ตที่เฉพาะเจาะจงได้ บุคลิกภาพของกลิ่น จะได้รับการพัฒนาจากปฏิกิริยาทางเคมีของโน้ตทั้งสาม เมื่อสัมผัสกับผิวหนัง

The Top Note

นี่เป็นทัพหน้าของกองทัพกลิ่นหอม ที่จะเข้าปะทะจมูกของคุณทันที เป็นที่ทราบว่ามันอยู่ส่วนบนของสามเหลี่ยมคลาสสิก และเป็นจุดขายหลักของน้ำหอม ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนผสมกลุ่มแรก ๆ ที่จะระบุไว้ข้างขวดน้ำหอม โน้ตนี้จะเกี่ยวข้องกับการยกระดับความสดชื่น เป็นตัวจุดประกาย และสร้างความคมชัด ให้กับน้ำหอม ส่วนผสมนี้จะประกอบไปด้วย โมเลกุลขนาดที่เล็กกว่า และเบากว่า เพื่อให้เป็นส่วนผสมแรกที่จะเผยกลิ่นหอมขึ้น และสร้างความประทับใจครั้งแรกของน้ำหอม ส่วนนี้เป็นส่วนที่มีน้ำหนักเบาที่สุด ในบรรดาโน้ตทั้งหมด มีประมาณ 10-30 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องหอม เพื่อให้จดจำได้ง่าย Top Note มักจะได้กลิ่นที่สดชื่นของ ส้ม หรือมินต์

The Heart Note

ส่วนผสมชุดนี้จะเผยกลิ่นทับซ้อนออกมาทันที เมื่อกลิ่นของ Top Note ได้เริ่มต้นขึ้น ส่วนผสมที่อยู่ในชุดของ Heart Note จะมีปริมาณมากถึง 40-80 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องหอมทั้งหมด ซึ่งกลิ่นรวมของโน้ตชุดนี้ จะมีโครงสร้างโมเลกุลที่โค้งมากขึ้น และมีขนาดใหญ่กว่า โมเลกุลของส่วนผสมใน Top Note ซึ่งจะต้องใช้เวลาเผยกลิ่นประมาณ 5 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง และกลิ่นจะคงดำเนินต่อไปได้อย่างยาวนาน Heart Note มักได้มาจากน้ำมันจากดอกไม้ และเครื่องเทศเช่น ตะไคร้ กุหลาบ กระดังงา ลาเวนเดอร์ ซึ่งจะผสมผสานกับ Top Note สร้างความซับซ้อนให้กับกลิ่นในน้ำหอม

The Base Note

ส่วนผสมในชุดสุดท้าย เป็นส่วนที่น่าหลงใหลมาก จะเป็นโน้ตที่จะปรากฏขึ้นล่าสุด เมื่อ Top Note และ Heart Note ระเหยไป เป็นการยืดระยะเวลาของกลิ่น ให้อ้อยอิ่งอยู่บนผิวหนัง ได้เนิ่นนานออกไป ส่วนผสมชุดสุดท้าย ที่เป็น Base Note นี้จะมีอยู่ในปริมาณ 10-25 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องหอมทั้งหมด ส่วนผสมชุดนี้จะมีโมเลกุลอ้วนใหญ่ และมีน้ำหนักมากกว่า ส่วนผสมก่อนหน้านี้ กลิ่นหอมของส่วนผสมชุดนี้จะมีความสมบูรณ์ และนุ่มนวล สร้างฐานที่แข็งแกร่งให้กับกลิ่นในน้ำหอม ซึ่งจะสกัดส่วนผสมนี้ได้จาก ไม้จันทน์ ไม้ซีดาร์ วานิลา

บทสรุป

ในสูตรน้ำหอม หรือโคโลญจน์ จะถูกออกแบบให้มีความซับซ้อนของกลิ่น แตกต่างกันออกไป การเลือกส่วนผสม เพื่อจัดวางอยู่บนสามเหลี่ยมคลาสสิก ศิลปินผู้ออกแบบกลิ่นในน้ำหอมนั้น จะสร้างสรรค์ให้เกิดกลิ่นหอมที่ลงตัว และกลมกลืน ให้เป็นน้ำหอมที่คุณโปรดปราน เพลิดเพลินไปกับความหอมของกลิ่นในแต่ละโน้ต ผสานเป็นซิมโฟนีแห่งกลิ่น ที่ถูกบรรเลงโดยวงออร์เครสต้าชั้นดี   หน้าที่ของคุณคือ ค้นหา วิธีเลือกน้ำหอม ให้เหมาะสมกับบุคลิกของตัวคุณเอง